การเพิ่มสารอาหารในฤดูใบไม้ร่วงเป็นขั้นตอนสำคัญในการเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาวและฤดูร้อนใหม่ เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว แผ้วถางเตียง และดินก็ร่วนซุย การฟื้นฟูภาวะเจริญพันธุ์จะต้องเข้าหาอย่างเชี่ยวชาญ
เวลาใส่ปุ๋ย
เวลาที่เหมาะสมในการใส่ปุ๋ยคือกุญแจสู่ความสำเร็จ ทางที่ดีควรใส่ปุ๋ยหลังการเก็บเกี่ยวและก่อนที่พืชจะพักตัว
ระยะเวลาการปฏิสนธิขึ้นอยู่กับภูมิภาคและเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม - ต้นเดือนตุลาคม
การเลือกปุ๋ย
ประเภทของสารที่ใช้ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของดินในพื้นที่และพืชที่กำลังเติบโต
ฟอสฟอรัส
ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสใช้กับดินที่เป็นกรด พวกเขาเสริมสร้างระบบราก ปรับปรุงการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช และเพิ่มผลผลิต พืชผัก ผลไม้และพุ่มไม้เบอร์รี่ ดอกกุหลาบ และดอกโบตั๋น จำเป็นต้องเตรียมฟอสฟอรัส ในระหว่างการขุดมีการใช้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสเป็นส่วนประกอบหลักและปุ๋ยที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ "ซุปเปอร์ฟอสเฟต", "ซูเปอร์ฟอสเฟตสองเท่า", "ไดแอมโมฟอส" และ "ป่นกระดูก"
โปแตช
ปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมใช้ในพื้นที่ที่มีดินเป็นกลางและเป็นด่าง ส่งเสริมการก่อตัวของตาและรังไข่ ปรับปรุงรสชาติของผลไม้ และเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช ปุ๋ยโพแทสเซียมใช้ในการปลูกแครอท หัวบีท และมันฝรั่ง ในบรรดาน้ำสลัดยอดนิยมชาวสวนเน้น "โพแทสเซียมไนเตรต" "คาลิมาก" และ "โพแทสเซียมซัลเฟต"
ไนโตรเจน
ชาวสวนที่มีประสบการณ์ไม่แนะนำให้ใช้ปุ๋ยแร่ที่มีไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบในฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากการสลายตัวและการชะล้างของสารออกจากดินอย่างรวดเร็ว ปุ๋ยคอกสดใช้ทดแทนปุ๋ยที่ซื้อจากร้านค้าได้ดี มันกักเก็บไนโตรเจนได้ดีและค่อยๆเข้าสู่ดิน
การเตรียมดิน
การเตรียมดินเพื่อใช้ธาตุอาหารทำได้ง่ายและประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:
- เตียงที่มีต้นไม้ประจำปีจะถูกเคลียร์จากการปลูกและเก็บเกี่ยวไม้ยืนต้น
- วัชพืชสามารถรับสารอาหารได้ ดังนั้นพวกมันจึงถูกกำจัดและส่งไปทำปุ๋ยหมัก
- หากจำเป็นให้ขุดชั้นบนของดินขึ้นมาและหลั่งน้ำอย่างดี
การใส่ปุ๋ย
เพื่อฟื้นฟูชั้นดินที่อุดมสมบูรณ์ขอแนะนำให้ใช้การขุด เมื่อใช้ปุ๋ยในพื้นที่เล็ก ๆ แนะนำให้คลายดินให้ลึก 15-20 ซม. แล้วกระจายสารให้เท่า ๆ กัน ในพื้นที่ขนาดใหญ่ ให้ใส่ปุ๋ยก่อนแล้วจึงไถดินให้ลึก 20–25 ซม.
การใช้ปุ๋ยอย่างถูกต้องและทันเวลาช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดินและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างอุดมสมบูรณ์ในฤดูกาลใหม่